ช่วงไหนของบาคาร่า น่าเล่นที่สุด

ในการเล่นบาคาร่า SAGAME แต่ละเกมนั้น ทุกๆเกมจะมีช่วงที่เรียกกันว่า ช่องโหว่ ซึ่งช่องโหว่ที่ว่ากันนี้จะเกิดขึ้นในช่วงๆหนึ่งระหว่างที่เกมส์ดำเนินไป ซึ่งตามหลักของการเล่นบาคาร่านั้นจะแบ่งเป็นสามช่วงคือ ช่วงต้น ช่วงกลาง และช่วงปลาย โดยบาคาร่า SAGAME จะใช้ไพ่ 8 สำรับ เท่ากับ 416 ใบให้เราหาร 4 (เพื่อให้ลงตัว) จะเท่ากับช่วงละ 104 ใบกว่าจะเล่นหมดสำรับประมาณ 60-70 เกมส์

ดังนั้นเวลาที่เราจะเจอช่วง “จุดอ่อน” คือช่วงปลายของแต่ละช่วงเท่ากับประมาณเกมส์ที่ 15 เป็นต้นไปของแต่ละช่วง เพราะไพ่จะเดินตายตัว และเซียนบาคาร่าจะเล่นช่วงนี้หนักกว่าช่วงต้น และส่วนใหญ่จะไม่เล่นในช่วงที่ 1-5 ของแต่ละช่วง และให้สังเกตุการออก Tie Game ในแต่ละช่วง ซึ่งจากสถิติจะพบว่าหากไพ่ขึ้นมังกรจะต้องตามด้วย Tie Game เสมอและหลัง Tie Game จะกลับไปออกฝั่งเดิมด้วย นี้เป็นจุดอ่อนในบาคาร่า SAGAME ที่พอจะจับทางได้ง่ายๆ

วิธีเล่นเดิมพันในช่วงจุดอ่อน

– เดินเงินโดยเน้นที่ Player หรือ Banker ให้มากกว่า Tie Game เพราะอัตราจ่าย Tie Game จะได้สูงกว่า แต่ไพ่จะไม่ออกทุกครั้ง แต่ให้เราดักไว้ และควรลง Tie Game ตามช่วงเลาที่บอกไว้ด้านบนคือปลายช่วงแต่ละช่วงนั้นเอง

– เริ่มจากดูเกมส์ก่อนสัก 3 เกมส์แล้วเริ่มเดิมพัน โดยจะให้เดิมพันจากฝั่งที่ชนะก่อนหน้าที่เราจะลงเงิน และให้แทง Tie Game ติดไปด้วยทุกครั้ง ยกตัวอย่างเล่น Banker + Tie Game ในทุกๆครั้งที่เดิมพัน

ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ จริงๆมันเป็นเหมือนแพทเทิร์นของการเล่นบาคาร่า SAGAME หากเราจะศึกษา SAGAME ก่อนการเดิมพันให้ดูสถิติในหน้าจอเดิมพัน หรือนั่งดูเกมส์แบบเต็มไปเลย ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงนั่งดู และจดแต้มไปเลยว่าไพ่ฝั่งไหน รันลำดับเป็น เกมส์ที่ 1 2 3 มาเรื่อยๆ แล้วค่อยจดย่อๆเช่น B P T คือ Banker/Pleyer/Tie Game ทำสถิติแบบนี้ไว้ได้เลย

นับเป็นเทคนิคหนึ่งที่ควรจำไว้ให้ขึ้นใจว่าจะต้องอ่านไพ่ให้เป็นก่อน รู้ว่าไพ่เดินแบบไหนเดิมพันแบบไหน แล้วนับจังหวะและเวลาของเกมส์ แบบที่เรายกตัวอย่างให้ว่า แต่ละช่วงจะมีกี่เกมส์ และต้นเกมส์ปลายเกมส์อยู่ตรงไหน เพราะไพ่บาคาร่านั้นหลักร้อยใบ และจะถูกสลับ และรันโดยที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ และเราหาจังหวะและโอกาสจากจุดอ่อนของบาคาร่า SAGAME จะทำให้เรามีโอกาสได้เงินจากเดิมพันเพิ่มขึ้นแน่นอน

แล้วลองหาโอกาสนั่งดูอีกสักรอบ และจดแบบนี้ แต่ให้จดคู่กัน แบ่งฝั่งเป็น รอบแรก รอบสอง แล้วจะเห็นชัดเลยว่า จะมีช่วงที่เป็นจุดอ่อน เพราะไพ่จะเดินเหมือนกันเป๊ะๆ อาจจะไม่ตรงกับเกมส์เดียวกันมากนัก แต่ลักษณะการเดินของไพ่ คือแบบเดียวกัน เราก็อาศัย จุดที่เราดูจากสถิติมาเป็นจุดแข็งในการเดิมพันของเราได้ เห็นมั้ยครับ ว่าทุกอย่างไม่ใช่แค่เรื่องดวง แต่ยังต้องใช้ประสบการณ์และการฝึกฝนจาก SAGAME อีกด้วย

หลักข้อคิดหากใจรักจะแทง

การทำอะไรก็ตาม หากว่าเราใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งก็มักจะไม่ประสบความสำเร็จหรือถ้าเกิดได้ดีขึ้นมา ก็มักจะไม่มีความยั่งยืน ในการลงทุน การทำงาน รวมถึงการเสี่ยงโชคกับบอลด้วยก็เช่นกัน ซึ่งอารมณ์ต่างๆที่กล่าวมานี้ รวมถึงความรู้สึกต่างๆทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น รัก โลภ โกรธ หลง เพื่อให้เห็นภาพเดี๋ยวจะมาอธิบายเพิ่มเติมกันนะ

อารมณ์รัก – คือการมีจิตใจเอนเอียงไปยังทีมโปรดของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ คนที่กำลังจมอยู่ในอารมณ์นี้ แนะนำว่าไม่ควรเล่นอย่างยิ่ง เพราะเรามักจะเทหมดหน้าตัก หรือมากเกินกว่าที่จะมีข้อมูลหรือบทวิเคราะห์อื่นๆรองรับ โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง สุดท้ายมักจะจบที่เจ็บตัว แต่ถ้าเล่นเอาสะใจกับความอินก็พอได้

อารมณ์โลภ – คือความอยากได้ อยากมี ลงทุนน้อยแต่อยากได้เยอะ หรือคิดว่าจะลงทุนหนักๆทีเดียวแล้วกะจะให้ผลลัพธ์ออกมาทวีคูร เป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน โดยมองข้ามอกาสพลาดไป

อารมณ์โกรธ – คือความอยากชนะ มักจะเกิดหลังจากมีการสูญเสียเกิดขึ้น แล้วเกิดอยากจะถอนทุนขึ้นมา แต่ยิ่งถอนกลับยิ่งเสียมากขึ้น ทำให้เกิดการทุบหม้อข้าว หรือนำทรัพย์สินไปเดิมพันจนอาจจะเดือนร้อนไม่ใช่แค่ตัวเองแต่คนรอบข้างได้

อารมณ์หลง – คือความมัวเมา เสพติดในการเดิมพันโดยไม่สนใจเหตุผลและสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน การสานสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เมื่อมาถึงจุดนี้มักจะหลุดออกไปได้ยากมากๆ ยังไงก็ขอให้เตือนสติตัวเอง และหาทางกลับไปตั้งหลักกันให้ได้นะ

จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ไหน หากปล่อยให้เข้ามาควบคุมการตัดสินใจในการแทงหรือการลงทุนของเราแล้ว ล้วนทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนใช้สติ เหตุผล และข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้เต็มที่ ส่วนจะเล่นเอาสนุกหรือเพื่อการลงทุน อันนี้ก็แล้วแต่เลย แต่อย่าให้เดือดร้อนตัวเองและคนรอบข้างที่รักเราก็พอ